แนวทางการอ้างอิง AI ในงานวิชาการ
- Sathaworn
- 6 days ago
- 1 min read
ปัญญาประดิษฐ์ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของการเขียนทางวิชาการอย่างถาวร จากเครื่องมือช่วยแก้ไขภาษาไปจนถึงการสร้างเนื้อหา AI กลายเป็นพันธมิตรที่สำคัญของนักวิจัยทั่วโลก แต่การใช้งานเหล่านี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบและข้อกำหนดใหม่ที่ทุกคนต้องเข้าใจ
อ้างอิง: https://apastyle.apa.org/blog/how-to-cite-chatgpt American Psychological Association (APA)
Written by: genspark.ai
Edited by: Sathaworn

หลักการพื้นฐานของการใช้ AI ในงานวิชาการ
การที่ทีม APA Style ประกาศว่าพวกเขา "ไม่ใช่หุ่นยนต์" และสามารถผ่านการทดสอบ CAPTCHA ได้ สะท้อนถึงความจำเป็นในการแยกแยะระหว่างผลงานของมนุษย์และเครื่องจักร ในโลกที่เส้นแบ่งนี้เริ่มพร่ามัว การกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งจำเป็น สิ่งที่น่าสนใจคือ ChatGPT และ AI tools อื่นๆ ไม่สามารถจัดประเภทเป็น "การสื่อสารส่วนบุคคล" ได้ เนื่องจากไม่มี "บุคคล" ใดสื่อสารจริงๆ การอ้างอิงข้อความจาก AI จึงเปรียบเสมือนการแบ่งปันผลลัพธ์ของอัลกอริทึม
มาตรฐานการอ้างอิงตาม APA Style
รูปแบบมาตรฐาน:
OpenAI. (2023). ChatGPT (เวอร์ชัน 14 มีนาคม) [โมเดลภาษาขนาดใหญ่].
การอ้างอิงในเนื้อหา:
การอ้างอิงแบบวงเล็บ: (OpenAI, 2023)
การอ้างอิงแบบบรรยาย: OpenAI (2023)
กรณีศึกษา: การวิเคราะห์การทำงานของสมอง
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการแบ่งสมองซ้าย-ขวา ChatGPT ให้คำตอบว่า แม้สมองทั้งสองซีกจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แต่การจำแนกคนเป็น "สมองซ้าย" หรือ "สมองขวา" เป็นการทำให้เรื่องซับซ้อนง่ายเกินไปและเป็นเพียงความเชื่อยอดนิยม (OpenAI, 2023)
นโยบายของสำนักพิมพ์ชั้นนำทั่วโลก
Biomed Central (BMC) กำหนดให้ "การใช้ LLM ควรได้รับการบันทึกอย่างเหมาะสมในส่วน Methods หรือในส่วนอื่นที่เหมาะสม หากไม่มีส่วน Methods"
Springer Nature มีจุดยืนที่ชัดเจน
AI tools ไม่สามารถเป็นผู้เขียนร่วมได้ เนื่องจากไม่สามารถรับผิดชอบต่อผลงานได้
นักวิจัยต้องบันทึกการใช้งาน LLM ในส่วน methods หรือ acknowledgements
IEEE กำหนดให้ "การใช้ข้อความที่สร้างโดย AI ต้องเปิดเผยในส่วน acknowledgements และส่วนที่ใช้ข้อความจาก AI ต้องมีการอ้างอิงระบบ AI ที่ใช้" USQ LibGuides
Elsevier อนุญาตให้ใช้ AI เพื่อปรับปรุงภาษาและความสามารถในการอ่าน แต่:
ต้องเปิดเผยการใช้งานอย่างเหมาะสม
ไม่อนุญาตให้ใช้ AI สร้างหรือแก้ไขภาพ ยกเว้นเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัย
Wiley เน้นย้ำว่า "ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อความถูกต้องของข้อมูลที่ AI ให้มา และต้องอ้างอิงงานสนับสนุนอย่างถูกต้อง"
แนวทางปฏิบัติที่ดีในการใช้ AI
การเปิดเผยที่โปร่งใส
ส่วนที่ควรระบุการใช้ AI
Methods section - สำหรับงานวิจัย
Acknowledgements - สำหรับการช่วยเหลือทั่วไป
Introduction - หากไม่มีส่วนอื่นที่เหมาะสม
"การวิจัยนี้ใช้ ChatGPT (OpenAI, 2023) เพื่อช่วยในการวิเคราะห์เบื้องต้นและปรับปรุงความชัดเจนของภาษา ข้อมูลทั้งหมดได้รับการตรวจสอบและยืนยันจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ"
ปัญหาความน่าเชื่อถือ
กรณีศึกษาที่น่าตกใจ: เมื่อทีม APA Style ขอให้ ChatGPT แสดงแหล่งอ้างอิงสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสมอง ChatGPT ให้รายการอ้างอิง 5 รายการ แต่พบว่า
4 รายการค้นหาพบจริง 1 รายการไม่มีอยู่จริง - DOI ที่ให้มาเป็นของบทความอื่น
แนวทางการตรวจสอบ Fact-checking อย่างเป็นระบบ
ตรวจสอบทุกแหล่งอ้างอิงที่ AI ให้มา
ยืนยัน DOI และข้อมูลบรรณานุกรม
อ่านต้นฉบับจริงเพื่อเปรียบเทียบ
ใช้แหล่งข้อมูลปฐมภูมิแทนการตีความของ AI
อนาคตของการเขียนทางวิชาการ
1. มาตรฐานที่เข้มงวดขึ้น: การเปิดเผยการใช้ AI อย่างละเอียดกลายเป็นข้อบังคับ
2. เครื่องมือตรวจสอบ: AI detection tools กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว
3. การศึกษาใหม่: หลักสูตรการใช้ AI อย่างมีจริยธรรมในสถาบันการศึกษา
4. ความร่วมมือระหว่างมนุษย์-AI: การพัฒนาแนวทางที่ AI และมนุษย์ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
คำแนะนำสำหรับผู้เขียน
หลักการ 3C:
Clarity (ชัดเจน): ระบุการใช้ AI อย่างโปร่งใส
Citation (อ้างอิง): ทำการอ้างอิงอย่างถูกต้อง
Caution (ระมัดระวัง): ตรวจสอบข้อมูลอย่างพิถีพิถัน

บทสรุป: การปรับตัวในยุคใหม่
การอ้างอิง ChatGPT และ AI tools ไม่ใช่เพียงเรื่องของรูปแบบการเขียน แต่เป็นการปรับตัวของชุมชนวิชาการทั้งหมดต่อเทคโนโลジีใหม่
ความสำเร็จในการใช้ AI ในงานวิชาการขึ้นอยู่กับ:
ความโปร่งใสในการเปิดเผย
ความรับผิดชอบในการตรวจสอบ
ความเข้าใจในข้อจำกัด
การเคารพมาตรฐานทางจริยธรรม
เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าไป มาตรฐานการเขียนก็จะพัฒนาตาม สิ่งสำคัญคือการติดตามข้อมูลใหม่และปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ในขณะเดียวกันก็รักษาคุณภาพและความน่าเชื่อถือของงานวิชาการไว้
コメント