เคยสงสัยไหมว่า AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนั้นมีประเภทอะไรบ้าง และมันทำงานอย่างไร? ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
AI ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน และการใช้ชีวิตของเราโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการสนทนากับแชทบอท การสร้างภาพจากข้อความ หรือการวิเคราะห์เอกสารอย่างละเอียดเพื่อค้นหาข้อมูลสำคัญ แต่ AI ไม่ได้มีรูปแบบเดียว—แต่ละเครื่องมือถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะด้านต่างกันออกไป การทำความเข้าใจประเภทของ AI จะช่วยให้เรารู้ว่าเครื่องมือแต่ละตัวถูกสร้างมาเพื่ออะไร และใช้งานอย่างไรได้บ้าง
จากแชทบอทอย่าง ChatGPT ไปจนถึงเครื่องมือการออกแบบอย่าง Whimsical หรือ AI ที่สร้างสรรค์ศิลปะอย่าง MidJourney ทุกตัวล้วนแต่มีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกันไป แล้ว AI ประเภทต่าง ๆ เหล่านี้ถูกจัดประเภทอย่างไร? เรามาเจาะลึกกันในบทความนี้
การจัดประเภท AI โดยทั่วไป
AI สามารถแบ่งประเภทได้หลากหลายวิธี แต่การแบ่งที่พบบ่อยที่สุดคือการแบ่งตามวัตถุประสงค์และหน้าที่ของ AI ในการทำงาน มาดูการจัดประเภท AI โดยทั่วไป:
Narrow AI (AI เฉพาะด้าน) Narrow AI หรือ AI ที่ทำงานเฉพาะด้าน เป็น AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะเจาะจง เช่น การตอบคำถาม การแปลภาษา หรือการเล่นเกมหมากรุก AI ประเภทนี้จะมีขอบเขตการทำงานที่ชัดเจน และไม่สามารถทำงานที่อยู่นอกเหนือจากการออกแบบได้ ตัวอย่างเช่น ChatGPT ที่ทำงานด้านการสนทนาและประมวลผลภาษามนุษย์
Generative AI (AI ที่สร้างสรรค์เนื้อหา) AI ประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างเนื้อหาใหม่จากข้อมูลที่ได้รับ เช่น การสร้างภาพ เสียง หรือข้อความใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่ MidJourney เป็นตัวอย่างที่ดีของ Generative AI ที่สามารถสร้างภาพศิลปะจากคำบรรยายที่ผู้ใช้ป้อน
Task-Specific AI (AI สำหรับงานเฉพาะทาง) Task-Specific AI ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานที่ต้องการการวิเคราะห์เฉพาะเจาะจง หรือทำงานร่วมกับข้อมูลเฉพาะอย่างเช่น Whimsical ที่ใช้ในการออกแบบแผนผังความคิด หรือ ChatPDF ที่ใช้วิเคราะห์เอกสาร PDF และตอบคำถามจากเนื้อหาภายในเอกสาร
ตัวอย่าง AI ยอดนิยม
ChatGPT (เช่น โมเดล GPT ของ OpenAI*):
หมวดหมู่: Natural Language Processing (NLP) / Conversational AI
ประเภท: Generative AI หรือ Large Language Model (LLM)
การใช้งาน: ChatGPT เป็นโมเดลที่สร้างขึ้นเพื่อเข้าใจและสร้างภาษามนุษย์ สามารถนำไปใช้ในการสนทนา การสร้างข้อความ การสรุป หรือการแปลภาษาได้ ทำให้เหมาะสำหรับงานที่เกี่ยวกับการตอบคำถาม การช่วยเหลือในการเขียน หรือการวิจัย
Whimsical:
หมวดหมู่: เครื่องมือออกแบบภาพ / เครื่องมือการทำงานร่วมกัน
ประเภท: AI-Assisted Productivity Tool
การใช้งาน: Whimsical เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างแผนผังความคิด (Mind Map) ไดอะแกรม หรือการออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ โดย AI จะเข้ามาช่วยให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเสนอดีไซน์หรือการปรับปรุงการทำงานของผู้ใช้
MidJourney:
หมวดหมู่: Generative Art
ประเภท: Generative AI สำหรับงานศิลปะ
การใช้งาน: MidJourney เป็น AI ที่สร้างภาพจากข้อความที่ผู้ใช้ป้อนลงไป คล้ายกับ AI อื่น ๆ เช่น DALL-E โดยสามารถเปลี่ยนข้อความเป็นผลงานศิลปะ เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานด้วยการใช้คำบรรยาย
OpenAI คืออะไร
OpenAI คือบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีเป้าหมายในการสร้างและส่งเสริม AI ที่มีความปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติในวงกว้าง OpenAI มุ่งมั่นในการพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ChatGPT ซึ่งเป็นโมเดลการประมวลผลภาษาขนาดใหญ่ที่สามารถสนทนา และตอบคำถามได้อย่างใกล้เคียงกับมนุษย์
OpenAI ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยมีวิสัยทัศน์ในการทำให้ AI เป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม บริษัทดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น AI สำหรับงานด้านภาษา การแปลภาษาอัตโนมัติ และการสร้างเนื้อหาต่าง ๆ อย่างปลอดภัย
OpenAI ยังมุ่งเน้นการทำงานแบบ Open Source ซึ่งหมายความว่าเนื้อหาและผลการวิจัยบางส่วนจะถูกเผยแพร่ให้กับสาธารณะเพื่อสร้างการพัฒนาร่วมกันในชุมชน AI ระดับโลก
API คืออะไร?
API หรือ Application Programming Interface คือ ช่องทางที่แอปพลิเคชันต่าง ๆ ใช้ในการสื่อสารกันโดยไม่ต้องเข้าถึงโค้ดของระบบนั้น ๆ โดยตรง API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเรียกใช้ฟังก์ชันและข้อมูลจากระบบอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น การเชื่อมต่อ ChatGPT กับแอปพลิเคชันอื่นเพื่อให้เกิดการสนทนากับผู้ใช้ในแบบเรียลไทม์
Comments