top of page
Writer's pictureSathaworn

Homo Naledi (ตอนที่ 2): การค้นพบที่น่าทึ่ง

Homo Naledi

เมื่อไม่นานมานี้ ดร.ลี เบอร์เกอร์ (DR. Lee Berger) นักโบราณคดีชื่อดัง ได้มาบรรยายเรื่องการค้นพบครั้งสำคัญในงาน Explorers Club ในนครนิวยอร์ก ถึงการค้นพบ "ถ้ำแห่งกระดูก (Cave of Bones)" ในประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งจะทำให้นักโบราณคดีต้องเขียนประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของมนุษย์กันใหม่เลยทีเดียว

ในเดือนกันยายน 2013 (พ.ศ. 2556) ทีมของ ดร.เบอร์เกอร์ ได้ค้นพบกระดูกสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ในถ้ำลึกใต้ดินในแอฟริกาใต้ ที่เรียกว่า "ไรซิ่งสตาร์ เคฟ (Rising Star Cave)" ทีมนักวิจัยพบชิ้นส่วนซาก Homo Naledi มากกว่า 1,550 ชิ้น ซึ่งประกอบด้วยโครงกระดูกของ Homo Naledi อย่างน้อย 15 ตัว (น่าจะเป็นลักษณะนามที่เหมาะสม) ที่น่าทึ่งคือ กระดูกที่พบมีความสมบูรณ์ และจากการวิเคราะห์ นักวิทยาศาสตร์สรุปว่า กระดูกที่พบนี้ ไม่ใช่ Homo Sapiens หรือมนุษย์สมัยใหม่ แต่เป็นมนุษย์สายพันธุ์ที่ยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อน จึงได้ตั้งชื่อใหม่ว่า Homo Naledi สิ่งที่น่าแปลกใจคือ Homo Naledi มีสมองขนาดเล็กเท่าลิง แต่กลับเดินสองเท้า และมีลักษณะทางกายวิภาคบางอย่างคล้ายคนสมัยใหม่ พวกเขาน่าจะอาศัยอยู่เมื่อราว 230,000-330,000 ปีก่อน ซึ่งย้อนหลังไปไกลกว่าที่เชื่อกันว่ามนุษย์เริ่มมีลักษณะคล้ายทุกวันนี้มาก


Fun Facts:

  • Homo Naledi มีส่วนสูงประมาณ 1.5 เมตร มีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก สมองมีขนาดเล็กประมาณ 500 ซีซี (ขนาดประมาณผลส้ม)

  • กะโหลกศีรษะ กระดูกขากรรไกร และฟันมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์สมัยใหม่ (Homo Sapiens)

  • กระดูกแขน และขามีขนาดเล็ก และมีสัดส่วนคล้ายลิง แต่มีมือ (มีนิ้วโป้ง) และเท้าเหมือนมนุษย์

  • อาจจะอยู่มาก่อน Homo Sapiens ราว 30,000 ถึง 130,000 ปี

hominin หมายถึงสัตว์ในสายพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด (คือบรรพบุรุษมนุษย์ สายพันธุ์ของญาติบรรพบุรุษมนุษย์ และมนุษย์ทั้งหมด) หลังจากที่สายพันธุ์ของลิงชิมแปนซีได้แยกออกไปแล้ว - Wikipedia


แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น คือหลักฐานที่แสดงว่า Homo Naledi อาจมีพฤติกรรมที่คล้ายมนุษย์ด้วย เช่น พบว่าศพของถูกวางในท่าคล้ายตอนอยู่ในครรภ์มารดาในหลุมที่ขุดตื้นๆ มีการขุดหลุม และกลบดินทับ และในบางหลุมพบว่ามีการนำเครื่องมือ (เชื่อว่าเป็นหัวหอก หรือมีดสกัดจากหิน วางไว้ในมือของศพ) ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เคยพบในสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากมนุษย์


นอกจากนี้ยังพบว่า ภายในถ้ำมีร่องรอยของการจุดไฟ มีการใช้เครื่องมือขีดเขียนผนังหินเป็นรูปสัญลักษณ์ต่างๆ แสดงถึงพฤติกรรมที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตที่มีสมองเท่าลิงจะทำได้ เพราะ "การฝัง" เป็นคำที่บ่งบอกถึงเจตนา ความเคารพ และความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย ซึ่งเมื่อลองเปรียบเทียบ Homo Naledi กับมนุษย์ยุคก่อนสายพันธุ์อื่นๆ ที่พบหลักฐานการฝังศพ อย่าง Neanderthals, Homo Sapiens, Homo Heidelbergensis จะเห็นว่าพฤติกรรมการฝังศพมีความแตกต่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับบริบท และวัฒนธรรม

ถ้ารู้สึกว่าธรรมดา ลองให้นึกภาพตามว่า สมมติมีกลุ่มลิงชิมแปนซี (Chimpanzee) ที่อยู่เป็นครอบครัว เมื่อมีตัวหนึ่งในกลุ่มตาย สมาชิกที่เหลือช่วยกันเคลื่อนย้ายศพเข้าไปในถ้ำ (Rising Star Cave) ซึ่งภายในถ้ำมืดมองอะไรไม่เห็น เลยต้องมีการจุดไฟเป็นจุดๆ ตามทางไปยัง "ห้องฝังศพ (Dinaledi Chamber)" ต้องคลานลอด ช่องแคบ (Superman's Crawl) ต่อด้วยการแบกศพขึ้นไปตาม "ทางลาดชัดในถ้ำ (Dragon's Back)" และหย่อนตัวลงมาตาม "ทางแคบ (The Chute)" ซึ่งเป็นช่องแคบเฉลี่ยกว้างประมาณ 10-10.5 นิ้ว (25.4-26.7 ซม.) ตลอดความยาว และบางช่วงแคบลงเหลือเพียง 7.5 นิ้ว (19 ซม.) ช่องนี้ลึกลงไปในแนวดิ่ง และแนวนอนรวมกว่า 50 ฟุต (15 เมตร) เพื่อไปขุดหลุมฝังศพ อาจจะมีการทำพิธีกรรม อาจจะมีการนั่งเศร้าเสียใจปลอมใจกันก่อนกลับขึ้นมา... ไม่ธรรมดาใช่ไหมครับ

กันงง

  • Homo Naledi คือชื่อสายพันธุ์มนุษย์โบราณที่ค้นพบใหม่

  • Dinaledi Chamber คือชื่อห้องในถ้ำ Rising Star ที่พบซากของ Homo Naledi


การค้นพบนี้ทำให้นักโบราณคต้องกลับมาทบทวนเรื่องวิวัฒนาการของมนุษย์กันใหม่ เพราะอาจจะไม่ใช่พัฒนาการเป็นขั้นบันไดอย่างที่เคยเชื่อกัน แต่อาจจะเป็นการแตกแขนงกิ่งก้านสาขามากมาย และคงจะมีสายพันธุ์มนุษย์ตระกูล Homo อีกหลายสายพันธุ์ที่รอให้ค้นพบ ดร.ลี เบอร์เกอร์ และทีมงานของเขา จะยังคงทำการขุดค้นศึกษากันต่อไป เพื่อไขปริศนาของ Homo Naledi ว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างไร และสำคัญคือ พวกเขาอาจมีความเชื่อมโยงกับ Homo Sapiens มนุษย์สมัยใหม่อย่างพวกเราอย่างไร ใครสนใจติดตามได้ทาง #Netflix series "Unknown: The Cave of Bones"



6 views0 comments

Comments


bottom of page