ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคใช้เวลากับสื่อโซเชียลมากขึ้น การทำการตลาดผ่าน Influencer หรือผู้มีอิทธิพลทางความคิด กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจการบินก็เช่นกัน ที่เริ่มหันมาใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing เพื่อสร้างการรับรู้และดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการมากขึ้น
Influencer คืออะไร
Influencer หมายถึงบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการของผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ โดยมีผู้ติดตามและได้รับความเชื่อถือจากผู้คนจำนวนมาก สามารถโน้มน้าวใจให้ผู้ติดตามคล้อยตาม เช่น ซื้อสินค้า เข้าร่วมกิจกรรม หรือใช้บริการต่างๆ ตามที่ Influencer แนะนำ
ความเป็นมาของการใช้ Influencer
เดิมทีธุรกิจมักใช้คนดังหรือดาราในการโปรโมทสินค้า แต่มีข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่ายสูงและไม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจง ต่อมาเมื่อโซเชียลมีเดียเติบโต ทำให้เกิด Influencer หรือผู้ทรงอิทธิพลซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก ธุรกิจจึงหันมาใช้ Influencer ในการทำการตลาด เพราะเข้าถึงคนได้ในวงกว้าง กำหนดเป้าหมายได้ชัดเจน และค่าใช้จ่ายไม่สูงเท่าใช้ดารา
ประเภทของ Influencer
Influencer แบ่งได้หลายประเภทตามขนาดของฐานผู้ติดตาม ได้แก่
Mega Influencer: ผู้ติดตาม 1 ล้านคนขึ้นไป มักเป็นดารา นักร้อง หรือคนดังระดับประเทศ
Macro Influencer: ผู้ติดตามระหว่าง 1 แสนถึง 1 ล้านคน เช่น บล็อกเกอร์ยอดนิยม
Micro Influencer: ผู้ติดตามระหว่าง 1 หมื่นถึง 1 แสนคน เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่ง
Nano Influencer: ผู้ติดตามต่ำกว่า 1 หมื่นคน มักมีความผูกพันกับผู้ติดตามสูง
ยิ่งผู้ติดตามมาก Influencer มักคิดค่าตอบแทนสูง ส่วน Micro/Nano Influencer จะคิดค่าตอบแทนต่ำกว่าแต่อัตราส่วนร่วม (Engagement Rate) ของผู้ติดตามมักสูงกว่า ตอบโจทย์แบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
กลยุทธ์ในการเลือกใช้ Influencer
เลือก Influencer ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ พิจารณาทั้งปัจจัยทางประชากรศาสตร์ จิตวิทยา และความสนใจ
พิจารณาภาพลักษณ์ของ Influencer ให้สอดคล้องกับแบรนด์ เพื่อถ่ายทอดคุณค่าของแบรนด์ได้อย่างเหมาสม
ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของ Influencer จากความสัมพันธ์กับผู้ติดตาม ไลฟ์สไตล์ และบุคลิกภาพ
พิจารณาปริมาณและคุณภาพของ Engagement จากจำนวนไลก์ คอมเมนต์ แชร์โพสต์ ฯลฯ
เลือกรูปแบบการนำเสนอให้น่าสนใจ ทั้งเชิงสร้างสรรค์และเชิงพาณิชย์ที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
กำหนดงบประมาณ KPI และสัญญาให้ชัดเจน พร้อมประเมินผลอย่างต่อเนื่อง
ข้อควรระวังจากการใช้ Influencer Marketing
Influencer ทำพฤติกรรมที่เป็นข้อถกเถียงหรือผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์แบรนด์
Influencer ให้ข้อมูลเกินจริงหรือบิดเบือนคุณสมบัติของสินค้า ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด
Influencer โปรโมทสินค้าคู่แข่งหรือสินค้าที่ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ สร้างความสับสน
Influencer ซื้อผู้ติดตามปลอม (Fake Followers) ทำให้ข้อมูลการวัดผลคลาดเคลื่อน
ประโยชน์ของการทำ Influencer Marketing
สร้างการรับรู้ ความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ และตราสินค้าให้แบรนด์อย่างรวดเร็ว
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายและเฉพาะเจาะจงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมการรับรู้ไปสู่การตัดสินใจซื้อ เนื่องจาก Influencer มีอิทธิพลสูง
ประหยัดงบประมาณ และสามารถวัดผลได้ง่ายกว่าการทำการตลาดรูปแบบเดิม
กรณีศึกษา (Case Study): ธุรกิจสายการบิน
สายการบิน Emirates เคยร่วมมือกับ Mega Influencer อย่าง Jennifer Aniston ในแคมเปญ #HelloJennifer ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ โดยปล่อยคลิปทั่วโลกร่วมทักทาย Jennifer บนเครื่องบิน Emirates ผ่านฮาชแท็ก #HelloJennifer กระตุ้นให้ผู้โดยสารสนใจบริการของสายการบินมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการใช้ Influencer ระดับโลกได้อย่างน่าสนใจ
อีกกรณีคือสายการบิน Cathay Pacific ที่เคยทำแคมเปญ #lifewelltravelled ด้วยการให้ Micro Influencer แชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวโดยใช้บริการของสายการบิน พร้อมชวนผู้ติดตามร่วมแชร์ภาพและเรื่องราวผ่านฮาชแท็ก ซึ่งสร้าง Engagement จากลูกค้าในวงกว้าง ถือเป็นการใช้ Micro Influencer ในการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ได้ดี
กรณีศึกษาความผิดพลาดจากการใช้ Influencer Marketing
สายการบิน Virgin Atlantic เคยจ้าง Micro Influencer ให้ถ่ายรูป #FlyVirgin บนเครื่องบิน แต่ปรากฏว่า Influencer คนหนึ่งโพสต์รูปบนเครื่องสายการบินคู่แข่ง ซึ่งสร้างความเสียหายด้านภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ จึงต้องตรวจสอบให้ดีและกำหนดข้อตกลงให้ชัดเจนเมื่อร่วมงานกับ Influencer
Comments