top of page

Walk Through Research ตอน ประเภทของการวิจัย

Writer's picture: SathawornSathaworn

การเข้าใจโลกของการวิจัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ การทำงานวิจัยนั้นเป็นเส้นทางที่ซับซ้อน และมีทางแยกหลายทาง คุณอาจจะสงสัยว่า 'ทำไมการทำวิจัยถึงซับซ้อน?' หรือ 'ทำไมเรากับงานวิจัยเหมือนเส้นขนาน?' บทความนี้มาทำความเข้าใจถึงประเภทการวิจัยกันก่อน เพื่อเป็นการปูทางไปสู่หัวข้อที่ซับซ้อนต่อๆ ไป ซึ่งการวิจัยสามารถเปรียบเทียบได้กับสีในจานสีของศิลปิน เช่นเดียวกับที่แต่ละสีมีลักษณะเฉพาะเฉพาะเอง แต่ละประเภทของการวิจัยมีลักษณะ และวัตถุประสงค์เฉพาะเอง


การแบ่งประเภทของการวิจัยสามารถทำได้หลายวิธี ได้กแก่





แบ่งตามระเบียบวิธีวิจัย

  1. การวิจัยเชิงประวิติศาสตร์ (Historical Research) เพื่อค้นหาความจริงในอดีต

  2. การวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) เพื่อค้นหาความจริงในสภาพปัจจุบัน ภายในสถานการณ์ธรรมชาติ เช่น การหาเงื่อนไข ความสำคัญที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติ ความเชื่อ ความคิดเห็น และทัศนคติ

  3. การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เพื่อค้นหาความรู้ ความจริง ภายใต้สถานการณ์ที่ถูกสร้างขึ้น (Treatment) เพื่อพิสูจน์ผลของตัวแปรที่ศึกษา ภายใต้การควบคุมตัวแปรอื่นที่อาจมีผลต่อตัวแปรที่ศึกษา

แบ่งตามประโยชน์ที่ได้รับ

  1. การวิจัยบริสุทธิ์ (Pure Research) หรือ การวิจัยพื้นฐาน (Basic Research) เป็นการวิจัยที่มุ่งค้นคว้าหาความจริงที่เป็นหลักการ กฎเกณฑ์ ทฤษฎี เพื่อขยายฐานความรู้ทางวิชาการ

  2. การวิจัยประยุกต์ (Applied Research) เป็นการวิจัยเพื่อนำผลไปใช้ในการปรับปรุงสภาพของสังคม และความเป็นอยู่ของมนุษย์ ส่วนมากได้แก่การวิจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา

  3. การวิจัยเชิงปฏิบัติ (Action Research) เป็นการวิจัยเพื่อนำผลมาใช้แก้ปัญหาในการปฏิบัติงานในองค์กร หน่วยงาน หรือสถานการณ์ โดยผลหรือวิธีการที่ได้จากการวิจัย อาจไม่สามารถนำไปใช้กับองค์กร หน่วยงาน หรือสถานการณ์อื่นได้

แบ่งตามวิธีการศึกษา

  1. การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เป็นเหมือนนักคณิตศาสตร์ของการวิจัย เป็นการวิจัยที่เกี่ยวกับการทำให้ปัญหาเป็นตัวเลข โดยสร้างข้อมูลเชิงตัวเลขที่สามารถนำไปคำนวณทางสถิติได้ เป็นการวิจัยที่ค้นหาความรู้ ความจริง โดยอาศัยข้อมูลที่เป็นเชิงประมาณ มีการใช้วิธีการทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล

  2. การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เป็นเหมือนภาพศิลปะในการวิจัย เป็นการวิจัยที่เน้นที่การสำรวจความคิด การเข้าใจเหตุผลภายใต้ ความคิดเห็น และแรงจูงใจ เป็นการวิจัยที่ค้นหาความรู้ ความจริง โดยอาศัยข้อมูลเชิงคุณลักษณะ หรือเชิงคุณภาพ การเก็บรวบรวมข้อมูลต้องการให้ได้สภาพจริงตามธรรมชาติ เช่น การสังเกต การจดบันทึก และการการสัมภาษณ์ เป็นต้น

แบ่งตามชนิดของข้อมูล

  1. การวิจัยเชิงประจักษ์ (Empirical Research) เป็นการวิจัยที่ค้นหาความรู้ ความจริง โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งปฐมภูมิในสภาพปัจจุบัน และมักจะมีการใช้วิธีการทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล

  2. การวิจัยเชิงวิพากษ์วิจารณ์ หรือเชิงไม่ประจักษ์ (Non-empirical Research) เป็นการวิจัยที่ค้นหาความรู้ ความจริงโดยอาศัยข้อมูลที่มีอยู่แล้ว และมักใช้การวิพากษ์วิจารณ์แทนการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติ

การนำไปใช้


เมื่อรู้แล้วว่าวิจัยประเภทต่าง ๆ มีความหมาย และเหมาะกับการศึกษาแบบใดบ้าง ผู้ทำการวิจัยก็ต้องเลือกประเภทที่ตรงกับงาน และนำมาเขียนอธิบายในส่วนของ "ระเบียบวิธีวิจัย" เช่น


END NOTE

การวิจัยทางสถิติสามารถให้ความแน่นอน 100% ได้หรือไม่?
ไม่เสมอไป สถิติเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่มันไม่สามารถรับประกันความแน่นอนได้เต็มที่ การวิจัยมักจะมองหาหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎี แต่ไม่ได้รับประกันความถูกต้อง 100%
7 views0 comments

Comments


BRAINBOOSTED

by Aj. P'O
Wix Cover Photos (4)_edited.png

"เพราะสงสัย จึงได้ค้นหา ความรู้ที่ได้มา จึงขอแบ่งปัน"
ที่ Brainboosted เราเชื่อว่าคำถาม และข้อสงสัยคือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้

ยิ่งเราสงสัยมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้ศึกษาค้นคว้ามากขึ้นเท่านั้น

และเมื่อเราได้ความรู้มาแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดคือการส่งต่อ

การแบ่งปันความรู้ การต่อยอดความคิด จะช่วยเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น
Brainboosted คือพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยน หากคุณมีคำถาม เราจะพยายามหาคำตอบ

ความรู้คือของขวัญ และเราเชื่อว่าการให้คือการรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

©2023 by Brainboosted. Proudly created with Wix.com

bottom of page