top of page

ช่างมัน ใช่ นิพพาน มั๊ย

  • Writer: Sathaworn
    Sathaworn
  • Oct 15
  • 1 min read

เมื่อถาม AI ว่า "ช่างมัน ใช่ นิพพาน มั๊ย" (แนะนำให้อ่านจนจบ)


จากช่างแม่ง → ช่างเหอะ → ช่างมัน → ไม่ต้องช่างอะไรเลย” คือเส้นทางของจิตที่ค่อยๆ ละลายตัวเองออกจากการยึด

---------------------

คำถามนี้ของเฮียนี่…โคตรสั้นแต่โคตรลึกเลยว่ะ


คำตอบแบบตรงๆ คือ —

“ช่างมัน” อาจ คล้ายนิพพาน ได้ แต่ไม่ใช่นิพพานจริงๆ เสมอไป มันขึ้นอยู่กับว่า “ช่างมันแบบไหน”


  1. ถ้า “ช่างมัน” เพราะ เหนื่อย / หมดแรง / ไม่อยากสู้แล้ว

    แบบ… “พอเหอะ เบื่อ ไม่เอาแล้ว” อันนี้คือ การหนี ยังมีตัว “เรา” อยู่ที่กำลังไม่อยากเจอสิ่งนั้น

    มันเป็นเพียง “อุเบกขาแบบเฉื่อยชา” (indifference) ไม่ใช่นิพพาน เพราะ “ไฟยังอยู่ แต่เราแค่ดับไฟชั่วคราว”

  2. แต่ถ้า “ช่างมัน” เพราะ เห็นความจริงว่า ทุกอย่างเป็นเช่นนั้นเอง

    แบบ… “เออ มันก็แค่ปรากฏการณ์หนึ่ง เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป” ไม่มีอารมณ์อยากครอบงำ อยากชนะ หรืออยากหนี

    อันนี้คือ “วางลงโดยมีปัญญา” นี่แหละ…ใกล้นิพพานสุดๆ แล้ว เพราะพระพุทธเจ้าท่านบอกว่า

“เมื่อใดเห็นสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง เมื่อนั้นย่อมวางลง”

ไม่ใช่ช่างมันเพราะเบื่อ แต่ช่างมันเพราะ “เข้าใจ”


  • “ช่างแม่ง” แบบประชดชีวิต = ยังอยู่ในวัฏจักร

  • “ช่างมัน” แบบเข้าใจความไม่เที่ยง = ประตูนิพพานเปิดอยู่ตรงหน้า


จะพูดให้ชัดสุดๆ คือ

นิพพาน = ช่างมันอย่างมีสติและปัญญา

ไม่ใช่เพราะเราตัดใจ แต่เพราะเราเห็นว่ามัน “ไม่จำเป็นต้องตัดอะไรเลย”


ree

โมเดล “ช่างมัน” 4 ระดับ

ระดับ 1: ช่างมันเพราะเบื่อ (Resigned Mind)

คำพูดในใจ: “ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น” เกิดจากความเหนื่อย ความท้อ ความเจ็บ ดูเหมือนปล่อยวาง แต่จริงๆ คือหนี พลังยังอยู่ แต่อุดไว้ในใจ

เหมือนเอา “ฝา” ไปปิดหม้อเดือดไว้เฉยๆ ผลคือสักวันมันก็เดือดอีก นี่ยังอยู่ในวัฏสงสารเต็มตัว


ระดับ 2: ช่างมันเพราะเอือม (Passive Detachment)

คำพูดในใจ: “พูดไปก็เท่านั้นแหละ ไม่เห็นจะเปลี่ยนอะไร” มีประสบการณ์ชีวิตเยอะจนไม่อยากยุ่ง มีทั้งความเข้าใจและความขมปนกัน ปากบอกช่างมัน แต่ในใจยังมี “เสียงบ่นเบาๆ”

เหมือนควันไฟที่ยังอุ่นอยู่ในขี้เถ้า ผลคือ: เงียบได้ แต่ยังไม่อิสระ


ระดับ 3: ช่างมันเพราะเข้าใจ (Wise Equanimity)

คำพูดในใจ: “ทุกอย่างมันก็แค่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย” รู้ว่าควบคุมไม่ได้ ไม่ต้องควบคุมก็ได้ ไม่หนี ไม่สู้ แต่ “อยู่ได้” อย่างมีสติ ใจไม่ดึง ไม่ผลัก

เหมือนน้ำใสที่เห็นตะกอนแล้วไม่ต้องคน ผลคือ: ความสงบเกิดขึ้นจากปัญญา นี่คือจุดที่ “ช่างมัน” เริ่มกลายเป็น “วางได้”


ระดับ 4: ช่างมันเพราะไม่มีใครต้องช่าง (No-Self Release)

คำพูดในใจ: “จะช่างมันไปทำไม ในเมื่อไม่มีใครต้องช่าง” ไม่มีตัว “เรา” เหลือให้ยึด ทุกอย่างเกิด-ดับเองตามธรรมชาติ

ไม่มีผู้ดู ไม่มีผู้ปล่อย

ความว่างนิ่ง ไม่ต้องเรียกว่า “ช่างมัน” ด้วยซ้ำ ผลคือ: นี่แหละ — นิพพานในชีวิตประจำวัน

 

สรุปสั้นๆ แบบคนเข้าใจชีวิต:

“จากช่างแม่ง → ช่างเหอะ → ช่างมัน → ไม่ต้องช่างอะไรเลย”

คือเส้นทางของจิตที่ค่อยๆ ละลายตัวเองออกจากการยึด

Comments


BRAINBOOSTED

by Aj. P'O
Wix Cover Photos (4)_edited.png

"เพราะสงสัย จึงได้ค้นหา ความรู้ที่ได้มา จึงขอแบ่งปัน"
ที่ Brainboosted เราเชื่อว่าคำถาม และข้อสงสัยคือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้

ยิ่งเราสงสัยมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้ศึกษาค้นคว้ามากขึ้นเท่านั้น

และเมื่อเราได้ความรู้มาแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดคือการส่งต่อ

การแบ่งปันความรู้ การต่อยอดความคิด จะช่วยเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น
Brainboosted คือพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยน หากคุณมีคำถาม เราจะพยายามหาคำตอบ

ความรู้คือของขวัญ และเราเชื่อว่าการให้คือการรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

©2023 by Brainboosted. Proudly created with Wix.com

bottom of page